ไขข้อสงสัย ทารกนอนสะดุ้ง ผวาบ่อยเกิดจากอะไร แก้ยังไงได้บ้าง

by MEE POOM DEE CO.,LTD. Sitthichaiviset on November 01, 2024
ไขข้อสงสัย ทารกนอนสะดุ้ง ผวาบ่อยเกิดจากอะไร แก้ยังไงได้บ้าง

 

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นลูกน้อยมีอาการนอนสะดุ้งหรือผวาบ่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกกังวลใจได้ แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการทารกนอนสะดุ้ง ผวาบ่อย ว่าเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง

 

ทารกนอนสะดุ้ง ผวาบ่อยเกิดจากอะไร

อาการทารกนอนสะดุ้งหรือทารกผวาบ่อยนั้น มักเกิดจากปฏิกิริยาที่เรียกว่า "Moro Reflex" หรือ "Startle Reflex" ซึ่งเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของทารกต่อสิ่งเร้าภายนอก เช่น เสียงดัง แสงจ้า หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากระบบประสาทของทารกที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้การส่งสัญญาณจากสมองไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายยังไม่สมบูรณ์ บางครั้งอาการผวาในทารกอาจเกิดจากการได้รับคาเฟอีนผ่านนมแม่ หรือระดับน้ำตาลในเลือดต่ำก็เป็นได้

ทารกนอนสะดุ้ง ผวาบ่อย ผิดปกติไหม

 

ทารกนอนสะดุ้ง ผวาบ่อย ผิดปกติไหม

โดยทั่วไปแล้ว อาการทารกนอนสะดุ้งหรือผวาบ่อยไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด เป็นเพียงการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายทารก ซึ่งมักพบได้ในช่วง 3-4 เดือนแรกหลังคลอด และจะค่อย ๆ หายไปเมื่อทารกโตขึ้น อย่างไรก็ตาม หากพบว่าลูกมีอาการผวาบ่อยมากผิดปกติ หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ร้องไห้ไม่หยุด หายใจลำบาก หรือผิวเปลี่ยนเป็นสีฟ้าหรือสีเทา ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม

วิธีแก้ปัญหาอาการผวาในทารก

 

วิธีแก้ปัญหาอาการผวาในทารก

แม้ว่าอาการทารกนอนสะดุ้งหรือผวาบ่อยจะเป็นเรื่องปกติ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัวและลดอาการเหล่านี้ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

 

1. อุ้มลูกให้แนบลำตัวมากที่สุดและนานที่สุด

การอุ้มลูกให้แนบชิดกับร่างกายของคุณพ่อคุณแม่จะช่วยให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการผวาได้ ควรอุ้มลูกไว้นาน ๆ และค่อย ๆ วางลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวล

 

2.ห่อตัวลูกน้อย

การห่อตัวลูกด้วยผ้าอ่อนนุ่มจะช่วยให้ลูกรู้สึกเหมือนอยู่ในครรภ์มารดา ทำให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ลดโอกาสที่จะเกิดอาการสะดุ้งหรือผวาได้

ทิ้งตัวลงนอนด้านข้าง

 

3. ทิ้งตัวลงนอนด้านข้าง

เมื่อจะวางลูกลงนอน ให้ค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนอนด้านข้างพร้อมกับลูก โดยให้ลูกกระชับแนบกับตัวคุณ อยู่ในท่านี้สักครู่ก่อนจะค่อย ๆ ผละออก วิธีนี้จะช่วยลดความรู้สึกโล่งหลังที่อาจทำให้ลูกผวาได้

 

4. จัดท่านอนให้เหมาะสม

ควรจัดให้ลูกนอนในท่านอนหงาย ซึ่งเป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทารก ช่วยให้หายใจได้สะดวกและลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome)

 

5. เลือกเตียงนอนที่มีความนุ่มกำลังดี

เลือกเตียงนอนเด็กที่มีความแน่นพอดี ไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป เพื่อให้ลูกนอนได้สบายและปลอดภัย ควรเลือกวัสดุที่ระบายอากาศได้ดีและปราศจากสารเคมีตกค้าง หรือจะเลือกใช้เปลไกวไฟฟ้า รุ่น Sensory Dreams Baby Swing จาก Bebeplay ที่มีฟังก์ชันการไกวแบบนุ่มนวลพร้อมเพลงกล่อม เพื่อกล่อมลูกน้อยให้ผ่อนคลายและหลับลึกขึ้นก็ได้เช่นกัน

ซึ่งเตียงนอนเด็ก 7 in 1 รุ่น Sweet Dream จาก Bebeplay ก็นับว่าเป็นเตียงนอนที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดเป็นอย่างมาก เพราะมีฟังก์ชันครบครัน สามารถเปิดข้างได้ 4 ระดับ ปรับความสูงตามความสูงของเตียงผู้ใหญ่ได้ สามารถปรับระดับเป็นเตียงกันกรดไหลย้อนเด็กอ่อน และปรับเตียงให้ไกวโยกได้ นอกจากนี้ยังผลิตจากไม้สนอบแห้งเกรด A จากนิวซีแลนด์ ทำให้มีความแข็งแรงสูง 

อีกทั้งยังสามารถปรับฟังก์ชันการใช้งานตามอายุของลูกน้อยได้อีกด้วย เช่น ปรับเป็นเตียงยาว โต๊ะเขียนหนังสือ โซฟา เป็นต้น นับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะสามารถใช้งานได้ตั้งแต่เป็นทารก จนถึงอายุ 6 ขวบ สำหรับคุณแม่ที่สนใจ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย

 

6. จัดเตียงนอนให้เป็นระเบียบ อากาศถ่ายเทได้ดี

จัดห้องนอนให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบ อุณหภูมิเหมาะสม และไม่มีแสงจ้ารบกวน ควรใช้ผ้าปูที่นอนที่เรียบ ไม่ยับย่น และหลีกเลี่ยงการวางสิ่งของที่ไม่จำเป็นบนเตียงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

 

สรุปบทความ

อาการทารกนอนสะดุ้งหรือผวาบ่อยเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในทารกแรกเกิด ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลดอาการเหล่านี้ได้ด้วยการอุ้มลูกให้แนบชิด ห่อตัวลูก จัดท่านอนที่เหมาะสม และสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายสำหรับการนอน หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับอาการของลูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป