No Products in the Cart
การเติบโตของทารกในช่วงปีแรกเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและท้าทายสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ทุกวันที่ผ่านไป ลูกน้อยจะมีพัฒนาการที่น่าทึ่งในหลาย ๆ ด้าน ทั้งร่างกาย การสื่อสาร อารมณ์ สังคม และการเรียนรู้ การติดตามพัฒนาการทารกอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมการเติบโตของลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับพัฒนาการทารกในแต่ละช่วงเดือน พร้อมคำแนะนำในการดูแลและเสริมสร้างพัฒนาการที่เหมาะสม
พัฒนาการทารก หมายถึง การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย ภาษา ความคิด และอารมณ์ของเด็กในช่วงอายุ 0-12 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกมีการเติบโตและเรียนรู้อย่างรวดเร็ว พัฒนาการของทารกแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น พันธุกรรม สภาพแวดล้อม และการเลี้ยงดู การเข้าใจพัฒนาการทารกจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถส่งเสริมและกระตุ้นการเรียนรู้ของลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม
เดือนแรกของชีวิตเป็นช่วงที่ทารกกำลังปรับตัวกับโลกภายนอก พัฒนาการในช่วงนี้จะเน้นไปที่การตอบสนองต่อสิ่งเร้าพื้นฐาน
ทารกในเดือนแรกจะสามารถยกศีรษะขึ้นจากพื้นเล็กน้อยเมื่อนอนคว่ำ กำมือไว้แน่น ๆ และมีปฏิกิริยาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงดัง การเคลื่อนไหวส่วนใหญ่จะเป็นแบบอัตโนมัติ เช่น การดูดนิ้วมือตัวเอง
ในช่วงนี้ ทารกจะเริ่มแสดงอารมณ์ผ่านการร้องไห้เพื่อสื่อสารความต้องการ เช่น หิวนม หรือไม่สบายตัว ทารกจะชอบจ้องมองใบหน้าของพ่อแม่และอาจนิ่งเงียบชั่วครู่เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
ทารกเริ่มตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยอัตโนมัติ เช่น การหันศีรษะไปตามเสียงหรือแสง สามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ห่างประมาณ 20-30 เซนติเมตร และเริ่มแยกแยะใบหน้าของคนใกล้ชิดได้
ควรพูดคุยและร้องเพลงให้ทารกฟังบ่อย ๆ สบตาและแสดงสีหน้าที่อบอุ่น ให้ทารกได้นอนคว่ำภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอและหลัง และตอบสนองต่อเสียงร้องของทารกอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย
ในเดือนที่สอง ทารกจะเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และแสดงอารมณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทารกสามารถยกศีรษะและอกขึ้นได้เมื่อนอนคว่ำ เริ่มขยับแขนขาได้คล่องแคล่วขึ้น และสามารถกำมือได้แน่นขึ้น บางคนอาจเริ่มพลิกตัวจากท้องไปหลังได้
ทารกเริ่มส่งยิ้มให้คนรอบข้าง ส่งเสียงอ้อแอ้เพื่อสื่อสาร และตอบสนองต่อเสียงพูดของผู้อื่น ทารกจะรู้สึกสงบเมื่อได้ยินเสียงหรือสัมผัสที่คุ้นเคย และเริ่มแสดงความรู้สึกด้วยการร้องไห้หรือยิ้ม
ทารกเริ่มมองตามวัตถุที่เคลื่อนไหว สนใจสิ่งของรอบตัวมากขึ้น และสามารถจดจำใบหน้าของคนใกล้ชิดได้ดีขึ้น เริ่มสังเกตมือของตัวเองและนำเข้าปาก
ควรจัดให้ทารกได้นอนคว่ำบ่อย ๆ ภายใต้การดูแล พูดคุยและเล่นกับทารกอย่างสม่ำเสมอ ใช้ของเล่นที่มีสีสันสดใสและมีเสียงเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัส และตอบสนองต่อเสียงอ้อแอ้ของทารกเพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษา
เดือนที่สามเป็นช่วงที่ทารกเริ่มมีความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมและคนรอบข้างมากขึ้น
ทารกสามารถยกศีรษะและอกได้สูงขึ้นเมื่อนอนคว่ำ ควบคุมศีรษะได้ดีขึ้น เริ่มเอื้อมมือไปจับของเล่น และอาจเริ่มพลิกตัวได้ทั้งจากท้องไปหลังและจากหลังไปท้อง
ทารกจะยิ้มและหัวเราะเสียงดังเมื่อมีคนเล่นด้วย เริ่มส่งเสียงคล้ายพูดมากขึ้น เช่น "อู" "อือ" และตอบสนองต่อน้ำเสียงที่แตกต่างกัน ทารกจะรู้สึกสงบเมื่อได้ยินเสียงหรือเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
ทารกเริ่มแยกความแตกต่างระหว่างนมแม่และขวดนมได้ สามารถมองตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และเริ่มสำรวจสิ่งของด้วยปากและมือ
ควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการใช้มือและการมองเห็น เช่น แขวนของเล่นให้ทารกเอื้อมจับ อ่านหนังสือภาพให้ทารกดู และพูดคุยกับทารกอย่างสม่ำเสมอ ใช้เวลาในการเล่นและมีปฏิสัมพันธ์กับทารกให้มากขึ้น
เดือนที่สี่เป็นช่วงที่ทารกเริ่มมีความสามารถในการควบคุมร่างกายและแสดงอารมณ์ได้ชัดเจนขึ้น
ทารกสามารถพลิกตัวได้คล่องแคล่วขึ้น ยกศีรษะและอกได้สูงมากขึ้นเมื่อนอนคว่ำ เริ่มนั่งได้โดยมีการพยุง และสามารถจับของเล่นได้ด้วยมือทั้งสองข้าง
ทารกเริ่มแสดงอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ดีใจ โกรธ หรือไม่พอใจ ส่งเสียงหัวเราะเสียงดัง และเริ่มเลียนแบบเสียงและท่าทางของผู้อื่น ทารกจะแสดงความสนใจเมื่อมีคนพูดคุยด้วย
ทารกเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล เช่น เขย่าของเล่นแล้วมีเสียง สามารถแยกแยะสีได้ดีขึ้น และเริ่มจดจำใบหน้าและเสียงของคนใกล้ชิดได้ดี
ควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการใช้มือและนิ้ว เช่น เล่นจ๊ะเอ๋ หรือให้จับของเล่นที่มีพื้นผิวต่างกัน พูดคุยและอ่านหนังสือให้ทารกฟังบ่อย ๆ และเริ่มสอนให้ทารกรู้จักชื่อของตัวเองและสิ่งของรอบตัว
ในเดือนที่ห้า ทารกจะมีความสามารถในการควบคุมร่างกายและสำรวจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ทารกสามารถนั่งได้โดยใช้มือช่วยพยุง เริ่มคลานแบบถอยหลังหรือกลิ้งตัวไปมา สามารถเอื้อมมือไปหยิบของได้แม่นยำขึ้น และอาจเริ่มทำท่าเตรียมคลาน
ทารกเริ่มทำเสียงเลียนแบบคำพูดมากขึ้น สนใจเสียงพูดคุยรอบตัว และอาจเริ่มส่งเสียงเรียกเมื่อต้องการความสนใจ แสดงอารมณ์ได้ชัดเจนขึ้น เช่น หัวเราะเมื่อสนุก หรือร้องไห้เมื่อไม่พอใจ
ทารกเริ่มสนใจสิ่งของรอบตัวมากขึ้น มองตามของเล่นที่อยู่ในมือ และพยายามเอื้อมหยิบสิ่งของที่อยู่ไกลตัว เริ่มเข้าใจว่าของเล่นยังคงมีอยู่แม้จะมองไม่เห็น
ควรเตรียมแผ่นรองคลานให้ทารกได้เคลื่อนไหวและสำรวจอย่างอิสระ เล่นเกมซ่อนของและให้หา ใช้ของเล่นที่มีเสียงและสีสันเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัส และพูดคุยกับทารกโดยใช้คำศัพท์ที่หลากหลายมากขึ้น
เดือนที่หกเป็นช่วงที่ทารกมีพัฒนาการก้าวกระโดดในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการเคลื่อนไหวและการสื่อสาร
ทารกสามารถนั่งได้โดยไม่ต้องพยุง เริ่มคลานไปข้างหน้าได้ บางคนอาจเริ่มยืนโดยเกาะเฟอร์นิเจอร์ สามารถส่งของจากมือหนึ่งไปอีกมือหนึ่งได้ และเริ่มหยิบอาหารใส่ปากเองได้
ทารกเริ่มพูดคำพยางค์เดียวได้ เช่น "มา" "ปา" เข้าใจความหมายของคำว่า "ไม่" และอาจเริ่มโบกมือหรือส่ายหน้าเพื่อสื่อสาร แสดงความผูกพันกับคนใกล้ชิดและอาจเริ่มแปลกหน้ากับคนแปลกหน้า
ทารกสามารถเล่นเกมง่าย ๆ เช่น จ๊ะเอ๋ได้ สนใจภาพในหนังสือ และเริ่มเลียนแบบท่าทางและเสียงของผู้อื่น สามารถจดจำใบหน้าและเสียงของคนใกล้ชิดได้ดีมาก
ควรเริ่มให้อาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ ฝึกให้ทารกดื่มน้ำจากถ้วย อ่านหนังสือและร้องเพลงให้ฟังบ่อย ๆ เล่นเกมที่ส่งเสริมการใช้มือและนิ้ว และสร้างกิจวัตรประจำวันที่มั่นคงเพื่อให้ทารกรู้สึกปลอดภัย ซึ่งในช่วงนี้ก็ควรจะเริ่มเตรียมคอกกั้นเด็ก เพื่อสร้างบริเวณที่ปลอดภัยในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ในเดือนที่เจ็ด ทารกจะมีความสามารถในการเคลื่อนไหวและสำรวจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ทารกสามารถคลานได้คล่องแคล่วขึ้น นั่งได้นานโดยไม่ต้องพยุง เริ่มดึงตัวเองขึ้นยืนโดยเกาะเฟอร์นิเจอร์ และใช้นิ้วหยิบของชิ้นเล็ก ๆ ได้ดีขึ้น
ทารกเริ่มเข้าใจความหมายของคำง่าย ๆ มากขึ้น สามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เช่น "มานี่" หรือ "บ๊ายบาย" แสดงอารมณ์ได้หลากหลายและชัดเจนขึ้น และอาจเริ่มแสดงอาการกลัวการพลัดพรากจากพ่อแม่
ทารกชอบสำรวจสิ่งของด้วยการเคาะ เขย่า หรือโยน เริ่มเข้าใจเหตุและผลมากขึ้น เช่น กดปุ่มของเล่นแล้วมีเสียงดัง และสามารถจดจำชื่อของตัวเองได้
ควรจัดพื้นที่ปลอดภัยให้ทารกได้คลานและสำรวจอย่างอิสระ เล่นเกมซ่อนของและให้หา ใช้ของเล่นที่ส่งเสริมการแก้ปัญหา เช่น บล็อกไม้ หรือของเล่นที่มีปุ่มกด และพูดคุยกับทารกโดยใช้ประโยคที่ซับซ้อนขึ้น
เดือนที่แปดเป็นช่วงที่ทารกมีความสามารถในการเคลื่อนไหวและสื่อสารที่ซับซ้อนขึ้น
ทารกสามารถคลานได้เร็วขึ้น เริ่มเดินเกาะเฟอร์นิเจอร์ได้ บางคนอาจเริ่มยืนได้โดยไม่ต้องเกาะ สามารถหยิบของชิ้นเล็ก ๆ ด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ได้ดีขึ้น
ทารกเริ่มพูดคำที่มีความหมายได้มากขึ้น เช่น "มาม้า" "ป๊าป๊า" เข้าใจคำสั่งง่าย ๆ ได้มากขึ้น แสดงความรักและความผูกพันกับคนใกล้ชิดอย่างชัดเจน และอาจแสดงอาการหวงของเล่นหรือขนม
ทารกเริ่มเข้าใจว่าสิ่งของยังคงมีอยู่แม้จะถูกซ่อนไว้ สามารถเลียนแบบท่าทางและเสียงได้ดีขึ้น และเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาพและคำพูด
ควรส่งเสริมให้ทารกได้เคลื่อนไหวและสำรวจสิ่งแวดล้อมอย่างปลอดภัย เล่นเกมที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เช่น การต่อบล็อก หรือการหยอดบล็อกลงกล่อง อ่านหนังสือและพูดคุยกับทารกอย่างสม่ำเสมอ และสอนทักษะทางสังคม เช่น การแบ่งปันและการรอคอย
เดือนที่เก้าเป็นช่วงที่ทารกมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นและเริ่มแสดงความสนใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง
ทารกสามารถยืนได้โดยเกาะเฟอร์นิเจอร์ เริ่มก้าวเดินโดยจับมือผู้ใหญ่ หยิบจับสิ่งของได้แม่นยำมากขึ้น และสามารถใช้นิ้วชี้ชี้ไปยังสิ่งที่สนใจ
ทารกเริ่มพูดคำที่มีความหมายได้มากขึ้น เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนขึ้น เช่น "เอาของเล่นใส่กล่อง" แสดงความต้องการของตนเองได้ชัดเจนขึ้น และเริ่มแสดงอารมณ์หงุดหงิดเมื่อถูกขัดใจ
ทารกสามารถเล่นเกมง่าย ๆ ที่มีกฎได้ เช่น การโยนลูกบอล เริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาพและคำพูดมากขึ้น และสามารถจดจำกิจวัตรประจำวันได้
ควรส่งเสริมให้ทารกได้ฝึกยืนและเดินอย่างปลอดภัย เล่นเกมที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ สอนคำศัพท์ใหม่ ๆ ผ่านการเล่นและกิจวัตรประจำวัน และเริ่มสอนทักษะการช่วยเหลือตนเอง เช่น การถือช้อนหรือการดื่มน้ำจากแก้ว
ในเดือนที่สิบ ทารกจะมีความสามารถในการเคลื่อนไหวและสื่อสารที่ซับซ้อนมากขึ้น
ทารกสามารถเดินเกาะเฟอร์นิเจอร์ได้คล่องแคล่วขึ้น บางคนอาจเริ่มก้าวเดินได้โดยไม่ต้องจับมือ สามารถควบคุมการทรงตัวเมื่อต้องการนั่งลงหรือยืนได้ดีขึ้น และใช้นิ้วมือหยิบของชิ้นเล็ก ๆ ได้แม่นยำมากขึ้น
ทารกเริ่มพูดคำที่มีความหมายได้มากขึ้น เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนขึ้น สามารถโบกมือทักทายหรือบอกลาได้ แสดงความรักและความผูกพันกับคนใกล้ชิดอย่างชัดเจน และอาจเริ่มแสดงอาการอายเมื่อพบคนแปลกหน้า
ทารกเริ่มเข้าใจความหมายของคำมากขึ้น สามารถชี้ไปที่สิ่งของที่คุ้นเคยเมื่อถูกถาม เริ่มเลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่ เช่น การแปรงฟัน หรือการโทรศัพท์ และสามารถเล่นเกมง่าย ๆ ที่มีกฎได้ดีขึ้น
ควรจัดพื้นที่ปลอดภัยให้ทารกได้ฝึกเดินและสำรวจสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการเล่นที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เช่น การต่อบล็อก หรือการวาดรูป อ่านหนังสือและพูดคุยกับทารกโดยใช้ประโยคที่ซับซ้อนขึ้น และฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน
เดือนที่สิบเอ็ดเป็นช่วงที่ทารกเริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นและมีความสามารถในการสื่อสารที่ดีขึ้น
ทารกสามารถเดินได้โดยจับมือผู้ใหญ่เพียงข้างเดียว บางคนอาจเริ่มเดินได้เองโดยไม่ต้องจับ สามารถปีนป่ายเฟอร์นิเจอร์ได้คล่องแคล่วขึ้น และใช้นิ้วมือหยิบจับสิ่งของได้แม่นยำมากขึ้น
ทารกสามารถพูดคำที่มีความหมายได้มากขึ้น อาจเริ่มเรียกชื่อสิ่งของหรือคนใกล้ชิดได้ เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนขึ้น แสดงความต้องการของตนเองได้ชัดเจน และเริ่มแสดงอารมณ์ที่หลากหลาย เช่น ความภูมิใจเมื่อทำอะไรสำเร็จ
ทารกสามารถเรียนรู้การใช้สิ่งของตามประโยชน์ได้ เช่น ใช้แปรงหวีผม เริ่มเข้าใจขั้นตอนการแต่งตัว สามารถเลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่ได้ซับซ้อนขึ้น และเริ่มแสดงความสนใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง
ควรส่งเสริมให้ทารกได้ฝึกเดินและเคลื่อนไหวในพื้นที่ปลอดภัย เล่นเกมที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ ฝึกให้ทารกช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน เช่น การถือช้อนหรือแปรงฟัน พูดคุยโดยใช้คำศัพท์ที่หลากหลายมากขึ้น
เดือนที่สิบสองหรือครบ 1 ปี เป็นช่วงที่ทารกมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างมากในทุกด้าน
ทารกส่วนใหญ่สามารถเดินได้เองโดยไม่ต้องจับ ยืนได้อย่างมั่นคง สามารถก้มเก็บของจากพื้นได้โดยไม่ล้ม และใช้นิ้วมือหยิบจับสิ่งของได้อย่างแม่นยำ บางคนอาจเริ่มวิ่งได้
ทารกสามารถพูดคำที่มีความหมายได้ประมาณ 2-3 คำ เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้น สามารถแสดงท่าทางง่าย ๆ เช่น โบกมือ ส่ายหน้า หรือพยักหน้าได้ แสดงความรักและความผูกพันกับคนใกล้ชิดอย่างชัดเจน และเริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
ทารกสามารถเลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่ได้ซับซ้อนขึ้น เริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล สามารถใช้สิ่งของตามประโยชน์ได้มากขึ้น และเริ่มแสดงความสนใจในการสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างจริงจัง
ควรส่งเสริมให้ทารกได้เคลื่อนไหวและสำรวจสิ่งแวดล้อมอย่างปลอดภัย เล่นเกมที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ ฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน เช่น การแต่งตัวหรือการรับประทานอาหาร และพูดคุยกับทารกโดยใช้ประโยคที่ซับซ้อนขึ้น
พัฒนาการทารกในช่วง 12 เดือนแรกของชีวิตเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและน่าตื่นเต้น ทารกจะมีพัฒนาการในด้านร่างกาย การสื่อสาร อารมณ์ สังคม และการเรียนรู้ที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง การเข้าใจพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ควรตระหนักว่าทารกแต่ละคนมีอัตราการพัฒนาที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบพัฒนาการของทารกกับเกณฑ์มาตรฐานควรทำเพื่อเป็นแนวทางเท่านั้น หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของลูก ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
สุดท้ายนี้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาของเล่นเสริมพัฒนาการ หรือของใช้เด็กแรกเกิด ก็สามารถแวะมาเลือกซื้อที่ Bebeplay ใน Central หรือ Robinson ใกล้บ้านคุณได้เลย! หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของเราก็ได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทางดังนี้